Saturday, March 17, 2007

การทำงบทดลอง


การจัดทำงบทดลอง
งบทดลอง (Trial Balance)
เมื่อกิจการได้ทำการบันทึกรายการค้าทุกรายการที่เกิดขึ้นในสมุดรายวันและผ่าน
ไปยังบัญชีแยกประเภทตามหลักการบัญชีคู่เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือ การจัดทำงบทดลอง
“งบทดลอง” เป็นงบที่แสดงยอดคงเหลือของบัญชีแยกประเภททุกบัญชี
ในวันใดวันหนึ่ง เพื่อเป็นการพิสูจน์การบันทึกบัญชีและการผ่านบัญชีว่า กิจการได้ทำถูกต้อง
ตามหลักการบัญชีคู่ นั่นคือ ต้องได้ยอดคงเหลือของทุกบัญชีที่มียอดดุลเดบิตเท่ากับทุกบัญชี
ที่มียอดดุลเครดิต โดยปกติการทำงบทดลองจะทำในวันสิ้นงวดบัญชี ก่อนการปิดบัญชีเพื่อ
หาผลการดำเนินงานของกิจการ เพื่อเป็นการตรวจสอบได้ว่าได้นำยอดดุลของบัญชีแยก
ประเภททุกบัญชีมาครบเรียบร้อยแล้ว

ขั้นตอนในการจัดทำงบทดลอง ทำได้ดังนี้

1. หายอดดุลคงเหลือของบัญชีทุกบัญชี โดยการรวมจำนวนเงินทางด้านเดบิตของบัญชี แล้วเขียนยอดรวมด้วยดินสอ (Footing) ในช่องจำนวนเงินด้านเดบิตบรรทัดสุดท้าย และทำเช่นเดียวกันนี้กับทางด้านเครดิต จากนั้นคำนวณผลต่างของด้านเดบิตและด้านเครดิต ด้านใดมีจำนวนมากกว่าให้ใส่ผลต่างในด้านที่มากกว่าลงในช่องรายการ


2. จัดทำงบทดลองขึ้น โดยมีรูปแบบการเขียนดังนี้
1. เขียนรายชื่อบัญชีลงในช่อง “ชื่อบัญชี” เรียงลำดับตามประเภทสินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รายได้ ค่าใช้จ่าย
2. เขียนเลขที่บัญชีของแต่ละบัญชีในช่อง “เลขที่บัญชี” ตามที่ได้กำหนดไว้ในผังบัญชี
3. เขียนจำนวนเงินคงเหลือ หรือยอดดุลของแต่ละบัญชี ลงในช่องจำนวนเงิน ถ้าเป็นยอดดุลด้านเดบิต ให้ใส่ในช่อง “เดบิต” ถ้าเป็นยอดดุลด้านเครดิต ให้ใส่ในช่อง “เครดิต”รวมจำนวนเงินในช่องเดบิต และช่องเครดิต จะต้องได้เท่ากัน


การบันทึกผิดดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ทำให้งบทดลองลงตัวได้ อันเนื่องมาจากความผิดพลาดในแต่ละขั้นตอนของการบันทึกบัญชี นับตั้งแต่การนำยอดดุลของบัญชีมาลงใน งบทดลอง ขั้นตอนหายอดดุลคงเหลือในบัญชีแยกประเภท ซึ่งเกิดจากการคำนวณยอดดุลไม่ถูกต้อง ขั้นตอนการผ่านบัญชีผิดด้านหรือผ่านด้วยจำนวนเงินไม่ถูกต้อง การเขียนตัวเลขกลับหลักกัน หรือลืมนำรายการบางรายการมาบันทึกบัญชี ดังนั้นนักบัญชีหรือผู้ตรวจสอบบัญชี อาจทำการตรวจสอบข้อผิดพลาดเบื้องต้นได้จากตามขั้นตอนดังนี้
1. ตรวจสอบจากการบวกยอดรวมจำนวนเงินในช่องเดบิตและช่องเครดิต
2. ตรวจสอบว่า นำบัญชีมาลงในงบทดลองครบถ้วน ด้วยจำนวนเงินที่ถูกต้องทั้งด้าน
เดบิตและด้านเครดิต
3. ตรวจสอบการคำนวณหายอดดุลของทุกบัญชีว่าถูกต้อง
4. ตรวจสอบการผ่านบัญชีจากสมุดรายวันไปยังบัญชีแยกประเภทว่า ได้ผ่านบัญชีถูกต้อง ถูกด้านและจำนวนเงินถูกต้อง
5. ตรวจสอบการบันทึกรายการในสมุดรายวันว่าได้บันทึกด้วยจำนวนเงินถูกต้องตามเอกสารและบันทึกด้านเดบิตเท่ากับด้านเครดิตตามหลักบัญชีคู่

อย่างไรก็ตาม การหายอดผิดเนื่องจากงบทดลองไม่ลงตัว นักบัญชีต้องใช้วิธีการตรวจสอบอย่างละเอียดตามลำดับที่ได้กล่าวข้างต้น
http://www.bunchee.bus.ubu.ac.th

No comments: